แม้ว่าตอนนี้ประเทศจีนจะโดนพิษสงครามการค้าเล่นงานจนทำให้โทรศัพท์แบรนด์หนึ่งถึงกับสตั๊นไปเล็กน้อยกับมาตรการขั้นเด็ดขาดจากอเมริกา ส่วนหนึ่งอาจจะมองว่าเรื่องการค้า แต่อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่าตอนนี้จีนกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางด้านเทคโนโลยีด้วยเหมือนกัน(ดูจากยอดขายแบรนด์จีนเป็นอันดับสอง ทิ้งห่างค่ายผลไม้ไปไกลแล้ว) ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้จีนได้ผลิตซีพียูความแรงได้เองแล้วด้วย
การผลิตชิปเซต
สำหรับไมโคโปรเซสเซอร์ หรือ ชิปเซ็ตนั้นเปรียบได้กับสมองกลตัวกลางที่สำคัญของคอมพิวเตอร์ และ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์หลายตัว เดิมทีจีนอาจจะเป็นได้แค่โรงงานผลิตส่วนใดส่วนหนึ่งเพื่อไปประกอบเป็นชิปเซตที่อีกประเทศหนึ่ง แต่ตอนนี้จีนกำลังจะผลิตชิปเซตไมโครโปรเซสเซอร์ได้เองแล้ว ตรงนี้สำคัญอย่างมากต่อการก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางด้านเทคโนโลยีของจีน ต้นเรื่องนี้ก็คือ การผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ที่แรงในยุคนี้อย่าง x86 นั้นจีนได้ทำการร่วมทุนกับบริษัท AMD และ บริษัท Tianjin Haiguang Holding ของจีนได้ตั้งบริษัทร่วมกันขึ้นมา จากนั้นได้ใช้ฐานความรู้การผลิตชิปเซตของ AMD แล้วพัฒนาต่อยอดเป็นของตัวเองตามลำดับ ซึ่งการสร้างชิปเซตดังกล่าวนั้นเกือบจะสมบูรณ์แล้วด้วย
สงครามการค้ายิ่งเริ่ง
เชื่อว่าเดิมที จีน ได้มีโครงการจะผลิตเจ้าชิปเซตตัวนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้ปล่อยออกมาเร็วๆนี้เนื่องจากต้องการทำให้แน่ใจว่าของจีนนั้นก็มีคุณภาพไม่แพ้ใคร แต่พอเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีน ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ นั่นยิ่งเป็นปฏิกิริยาเร่งให้จีน ต้องรีบสร้างเทคโนโลยีด้วยตัวเองออกมาให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องง้อสหรัฐอีกต่อไป หรือถึงแม้ว่าสงครามการค้าจะลดระดับลง จีนเองก็คงจะไม่ไว้ใจสหรัฐอีกต่อไปว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก การเลือกใช้ของตัวเองเพื่อทางเลือกที่ดีสุดในชั่วโมงนี้
สงครามการค้าด้านไอที
หากชิปเซตตัวนี้ของจีนออกมาได้จริง บอกได้เลยว่าสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ จะร้อนแรงขึ้นอีกและยาวนานขึ้นอีก เนื่องจากว่าเมื่อจีนมีเทคโนโลยีชิปเซตอยู่ในมือ ทีนี้เค้าจะทำอะไรก็ได้ สินค้าไอทีตั้งแต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเล็ต เครื่องอำนวยความสะดวกที่มี AI และอีกมากมาย เมื่อจีนทำได้เองหมดด้วยราคาไม่แพง นั่นทำให้สินค้าจากสหรัฐอาจจะต้องม้วนเสื่อได้เมื่อต้องสู้กันเรื่องราคาแล้วคุณภาพไม่แตกต่างกันมากนัก
สุดท้ายแล้วก็ต้องมาดูกันว่าชิปเซตมาพร้อมสถาปัตยกรรม X86 ของ จีนจะออกมาตอนไหน มีประสิทธิภาพอย่างไร แน่นอนว่าเราเองในฐานะผู้ใช้สินค้าก็รอดูอยู่ห่างๆ ไปก่อน แต่รับรองว่าจีนเข็นออกมารอบนี้งานดีแน่นอน