เราคงจะนึกไม่ออกว่าโลกที่คอมพิวเตอร์ไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจะเป็นอย่างไร เพราะทุกวันนี้เราต่างพึงพาเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อประโยชน์หลายอย่าง เช่น เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เครื่องมือคำนวณทางวิทยาศาสตร์ และ เพื่อความบันเทิงของเรา มันสำคัญมากสำหรับมนุษย์ในปัจจุบัน เพราะถ้าไม่มีคอมพิวเตอร์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระสวยอวกาศ เราควจะไม่สามารถส่งยานอวกาศขึ้นไปบนอวกาศได้ วันนี้มันถือเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นความสำเร็จของมวลมนุษย์เรา
ยุคเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ยุคเริ่มแรกสุดเราเรียกมันว่า Electronic Numerical Integrator And Computer หรือเรียกโดยย่อว่า ENIAC เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จสุดเท่าที่มนุษย์เคยทำมา ถูกพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพสหรัฐในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้ในการคำนวณวิถีกระสุนของปืนใหญ่ มันเปิดทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.1945 แต่ทว่าสงครามได้จบลงไปแล้ว ทำให้เจ้าเครื่อง ENIAC กลายเป็นอุปกรณ์ที่นำมาประยุกต์ใช้ในสงครามเย็นแทน ความสะดวกของมันช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาระเบิดไฮโดรเจนที่เรียกว่า H-Bomb ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้อีกหลายสิบปีถ้าปราศจากเจ้าเครื่องนี้
การก้าวกระโดดของเทคโนโลยี
ถึงแม้ว่า ENIAC จะเคยเป็นสิ่งอัศจรรย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ในปัจจุบันนี้มันกลายเป็นของเก่าเก็บยุคไดโนเสาร์ไปแล้ว เครื่อง ENIAC มีส่วนประกอบที่ซับซ้อน มันมีขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยหลอดสุญญากาศมากกว่า 17,468 ชิ้น และมันก็มีโอกาสระเบิดเมื่อผ่านการใช้งานไปหลายๆ วัน ใช้พื้นที่กว้างถึง 1,800 ตารางฟุต มีน้ำหนัก 25 ตัน เท่ากับน้ำหนักของไดโนเสาร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกเลย ด้วยเครื่องขนาดเท่านี้มันมีอัตราการคำนวณที่ 5,000 คำสั่งต่อวินาที เมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนี้ที่น้ำหนัก 4.55 ออนซ์ สามารถคำนวณได้มากกว่า 25 พันล้านคำสั่งต่อวินาที
ในขณะที่เราก้าวสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว มนุษย์ได้ประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่า “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์” อย่างเช่นตัวที่รู้จักกันดีอย่าง IBM Blue Gene ประสิทธิภาพของมันไร้เทียมทาน มันมีความสามารถในการคำนวณสูงต่อวินาที มากเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ ซึ่งแม้แต่วิศวกรแห่งยังไม่คิดที่จะวัดความเร็วของมันเลยแม้แต่น้อย Blue Gene ช่วยทำงานในการคำนวณสิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ อย่างเช่นการสร้างแผนที่จีโนมของมนุษย์ การจำลองการสลายตัวของกัมมันตภาพรังสี สร้างแบบจำลองแอโรไดนามิค รวมถึงระบบเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ แน่นอนว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 1720 ปอนด์ แต่เมื่อเทียบกับขนาดที่เล็กกว่าเครื่อง ENIAC มากถึง 20 เท่า แต่ทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกือบร้อยเท่า ก็นับเป็นความก้าวหน้าที่สุดของมวลมนุษย์เท่าที่เคยทำมาก่อน